ธ.ทรงบารมีล้นฟ้า แรงศรัทธาล้นแผ่นดิน พสกนิกรไทยทั่วถิ่น ขอองค์ภูมินทร์ ทรงพระเจริญ

วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2556












จากผกาวัลย์วิญญาณลอยถึง....

เดชเจ้าพ่อจ่าดำ

ณ.ลุ่มน้ำปากพนังของฝั่งตก
เกิดทารกหน่อเนื้อสืบ้ชื้อสาย
สายเลือดศิลป์ห่อหุ้มคลุมร่างกาย
ของเด็กชายทวี ฤทธิวงศ์
ใครจะคิดทำนายว่าภายหน้า
จะกลายเป็นเมธาค่าสูงส่ง
และเป็นหนังชั้นครูผู้ยิ่งยง
สืบดำรงศาสตร์ศิลป์ระบิลไกล
ผืนผ้าขาวจอหนังบังแสงส่อง
คือตัวของไอ้แข้ง แฉ็ง และไข่
หนังวัวแห้งสลักลายสายแสงไฟ
สิ่งมอบให้สรรสร้างอย่างสำราญ
เป็นแขกยามราตรีเยี่ยมพี่น้อง
เสียงขับร้องโหม่งฉิ่งทับดังขับขาน
สุขเศร้าโศกสลดใจใส่ในนิทาน
จินตนาการด้วยลีลาของอารมณ์
ผกาวัลย์วิญญาณลอยผู้สร้อยเศร้า
คละคลุกเคล้าความแค้นแสนขื่นขม
เรื่องสวรรค์สาปสาวเค้าเงื่อนปม
ทุกข์ระทมของแววตาผู้อาภัพ
นิยายหนังร้ายเหลือศีลสอง
หน้ากากทองคำดีที่ขานขับ
ราหูจอมสังหารถึงกาลดับ
ราหูจับอมจันทร์เมื่อวันเพ็ญ
มาถึงเรื่องของขวัญบันลือโลก
สุขและโศกฝากไว้ให้ชนเห็น
ปรัชญามากมายหลายประเด็น
มอบไว้เป็นปัญญาคราได้ชม
เพชฌฆาตสงครามตามเข่นฆ่า
พวกชั่วช้ากายใจไม่เหมาะสม
สร้างแต่ความวุ่นวายให้สังคม
มีเงื่อนปมให้คิดพิจาราณา
เดชเจ้าพ่อจ่าดำนำสนอง
คนเฝ้ามองสนใจในเนื้อหา
ตั้งเครื่องเซ่นบวงสรวงดวงวิญญา
วีรชัยใจกล้าคราสงคราม
ทวีศิป์บางตะพงบรรจงเล่น
ยอมรับเป็นเมธีที่เกรงขาม
พิ้ง พังยาง เรียงรสบทสวยงาม
สร้างนิยามสูงสุดมงกุฎทอง
จากผกาวัลย์วิญญาณลอยผู้สร้อยเศร้า
ถึงเดขเจ้าพ่อจ่าดำผู้ผยอง
พยัคฆ์ร้ายตายในถ้ำอย่างลำพอง
ที่ศพของทวีมีจอคลุม
เอาอักษรแทนมาลัยเส้นไหมถัก
ด้วยใจรักคารวะมาห่อหุ้ม
กัลญานมิตตรามาชุมนุม
สิงห์แห่งลุ่มคงคาผู้ลาไป
รำลึกถึงคุณงามและความดี
ของอาจารย์หนังทวีผู้ยิ่งใหญ่
จิตวิญญาณสถิตย์อยู่ ณ ที่ใด
ขอจงได้สู่ชั้นสวรรค์เทอญ

                 สงวน กลิ่นหอม

                                        กระท่อมท่าเรือนครศรีธรรมราช                  
----------------


รำลึกถึงหนังทวี  บางตะพง


ยี่สิบหกกรฎาเวลาดึก
จิตสำนึกนิ่งสงบพบจุดหมาย
คนเราหลีกไม่พ้นหนทางตาย
ผลสุดท้ายหนังทวีที่ล่วงลา
เจ็ดสิบเอ็ดต่อสู้รู้ศาสตร์ศิลป์
ชื่อระบิลหนังชั้นครูอยู่แนวหน้า
แต่โรคร้ายย่ำยีสิบปีกว่า
เกณฑ์ชะตาบอกให้แพ้แก่โรคภัย
นิยายหนังเขียนไว้ให้ต่อสู้
พระเอกผู้นำทางอย่างยิ่งใหญ่
เป็นพระเอกต้องดีและมีชัย
ครองหัวใจมวลชนด้วยผลงาน
เป็นหนึ่งไม่มีสองการครองคู่
กตัญญูพันผูกทั้งลูกหลาน
ศิษย์ใช้คำนำหน้าว่าอาจารย์
แต่ถึงกาลหลับไม่ตื่นฟื้นไม่มี
จอมปราชญ์แห่งลุ่มน้ำงามสง่า
จอมลีลาเอกลักณ์สมศักดิ์ศรี
วิญญาณสู่ภพหน้าสุขาวดี
ณ ที่นี้ขอคารวะและอาลัย

สงวน กลิ่นหอม
กระท่อมท่าเรืออำเภอเมืองนครศรีธรรมราช

--------------


แข้ง แฉ็ง  ไข่... 


เมื่อไอ้แข้ง แฉ็ง ไข่ จากไปแล้ว
ตลกแนวไอ้แข้งแฉ็งและไข่
ทั้งโหม่งฉิ่งปี่ทับก็ดับไป
เหลือเอาไว้เป็นความหลังหนังทวี
เจ็ดสิบเอ็ดหน้าฝนบนผ้าขาว
สุขและเศร้าอาชีพรักสมศักดิ์ศรี
สร้านิยายหนังตะลุงมมุ่งทำดี
และวันนี้ร่างของเขาถูกเผาไฟ
เป็นวัวควายช้างม้าคราล้มเหลือ
กระดูกเนื้อเขาหนังคนยังไฝ่
มีประโยชน์มีคุณค่าน่าพอใจ
แล้วคนเราเหลืออะไรให้เทิดทูน
นับเป็นร้อยศิลปินสิ้นชื่อเสียง
คงเหลือเพียงความดีมิสิ้นสูญ
คนกล่าวขวัญศิษย์สืบสร้างอย่างจำรูญ
ได้พอกพูนเส้นทางอย่างเมธา
....หนังทวีศิลป์บางตะพง
ต่อไปคงเป็นตำนานกาลข้างหน้า
กุศลส่งสู่สรวงดวงวิญญา
น้อมรำลึกคารวะด้วยอาลัย
เมื่อไอ้แข้งแฉ็งไข่ไม่ขับขาน
ปิดตำนานหนังทวีืั้ยิ่งใหญ่
ศิลปินเมืองนครขจรไกล
คงเหลือไว้แต่คุณงามและความดี

สงวน กลิ่นหอม
กระท่อมท่าเรือ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช
แต่งสดุดีและขอคารวะต่อดวงวิญญาณหนังทวีศิลป์ บางตะพง

**********************

แด่...ลูกทวี ผู้มีหนังตะลุงในหัวใจตั้งแต่วัยเยาว์

ตั้งแต่เยาว์วัย ลูกทวี ตี่ฉิ่งให้คณะของพ่อ 
บางครั้งเงียบหลับ ฉิ่งได้พลัดตกลงมาใต้โรงหนัง
ทันที่รู้สึกตัวลูกทวีก็รีบลงไปหยิบเอามาตีต่อไป และบ่อยครั้งที่ต้องเดินลัดตัดทุ่ง ไกลแสนไกลเพื่อไปแสดงหนังตะลุง ลูกทวีก็เต็มใจเดินไป ถามไปในเรื่องหนังตะลุง จนรุ้จริงรู้แจ้งจึงนำไปใช้ปฎิบัติ ลูกทวีไม่เคยคาดเดาแล้วเอาวิชาหนังตะลุงไปใช้ผิดๆ พ่่อประจักษ์แก่ใจว่า ลูกทวีเป็นผู้มีหนังตะลุงอยู่ในหัวใจตั้งแต่เยาว์วัย พ่อภาคภูมิใจในตัวลูกทวี ที่รักศิลปะหนังตะลุงด้วยจิตวิญญาณ เพียรพยายามจนสำเร็จเป็นศิลปินหนังตะลุงที่มีชื่อเสียงโด่งดัง  วันที่ลูกทวีเสียชีวิต พ่อมีความสลดใจ ลูกเป็นคนดีที่เพื่อนำไม่อยากให้จากไป แต่คนเราห้ามตายไม่ได้ พ่อขอให้ลูกทวีมีความสุขและมีหนังตะลุงในหัวใจ
เป็นศิลปินหนังตะลุงที่ยิ่งใหญ่ ในทุกภพทุกชาติ

    จากพ่อล้อม สระกำ
     (หนังล้อม  สังข์พันธ์)
ผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมสาขาศิลปะการแสดง(หนังตะลุง)
สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติปี 2541


แด่หนังทวีศิลป์...
ศิลปินผู้สร้างสรรค์มรดกวัฒนธรรมพื้นบ้าน

     บรรดามหรสพพื้นบ้านซึ่งเป็นที่นิยมอยงแพร่หลายมานานหลายชั่วอายุคนในท้องถิ่นภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราชนั้น หนังตะลุง เป็นศิลปะการแสดงประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมชมชอบ จนกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ที่สั่งสมสืบทอดกันมาจวบจนปัจจุบัน
    เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในหมู่ศิลปินพื้นบ้านว่าการแสดงหนังตะลุงเป็นศิลปะบูรณาการความสามารถรอบด้าน ทั้งการเชิดรูป การเจรจา การขับบทกลอน การสร้างสรรค์มุขตลก ซึ่งให้ทั้งสาระและบันเทิงที่หลากหลายได้อย่างกลมกลืนและมีเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละคน
    การที่คนคนเดียวสามารถสวมบทบาทและจิตวิญญาณให้ตัวละครที่หลากหลายได้อย่างเหมาะเจาะตามเอกลักษณ์ ที่ปรากฎในนิยายหนังตะลุงและสถานการณ์ อันเป็นบริบทแวดล้อมของแต่ละท้องถิ่นที่ไปผสมผสานกลมกลืนกับเสียงดนตรีให้มีทั้งอรรถรส สุนทรียะ สารัตถะ หาสยรสด้วยแล้วก็ยิ่งแสดงถึงอัตลักษณ์อันงามสง่า และเป็นอัจฉริยภาพแห่งศิลปินหนังตะลุงที่น่าศรัทธา เป็นอย่างยิ่ง
   "หนังทวีศิลป์  บางตะพง" (นายทวี ฤทธิวงศ์) เป็นศิลปินหนังตะลุงคณะหนึ่งที่มีคุณลักษณ์ดังกล่าวมา และหลายครั้งหลายคราที่หนังทวีศิลป์ได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชทั้งในช่วงเวลาที่ยังเป็นวิทยาลัยครูและสถาบันราชภัฏนครศรีธรรมราช หนังทวีศิลป์ก็ได้แสดงอัจฉริยภาพแห่งศิลปินหนังตะลุงให้เป็นที่ประจักษณ์แก่สาธารณชนเสมอมา
   หนังทวีศิลป์ บางตะพง ได้ประกอบวิชาชีพศิลปินหนังตะลุงตั้งแต่อายุ 19 ปี จนกระทั่งปัจจุบัน (2548 อายุ 41 ปี) ระยะเวลาเกินกึ่งศตวรรษที่ศิลปินหนังตะลุงผู้นี้ได้สร้างสรรค์งานการแสดงหนังตะลุง ให้เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมจนถึงขั้นเ้ป็นหนังตะลุงมืออาชีพที่มั่นคงถาวรสืบต่อมายาวนาน ชื่อ หนังทวีศิลป์ บางตะพง เป็นที่รู้จักกล่าวขานกันทั่วทั้งจังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดใกล้เคียง เกียรติยศชื่อเสียงเป็นที่ปรากฎมีรางวัลเกียรติยศแสดงถึงความสามารถที่เก่งกาจทางด้านศิลปะการแสดงหนังตะลุงมากมายนับไม่ถ้วนทั่วที่สำคัญๆ เช่น "มงกุฎทองคำฝังเพชร" รางวัลเกียรติยศที่ได้จากการประกวดแ่ข่งขันประชันโรงศิลปินหนังตะลุงทั่วภาคใต้ ณ สนามหน้าเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นต้น นับว่าเป็นคุณูปการแก่มรดกวัฒนธรรมพื้นบ้านเป็นอย่างยิ่ง
   แม้วันนี้หนังทวีศิลป์ จะต้องละสังขารไปแล้วโดยวัยและโดยธรรมดาโลกท่ามกลางความเศร้าโศก เสียดายของภรรยา บุตร ธิดา วงศาคณาญาติ ศิษยานุศิษย์และผู้รู้กิตติศัพท์ของศิลปินหนังตะลุงผู้นี้ แต่ความทรงจำในรูปลักษณ์ของศิลปินผู้สร้างสรรค์มรดกทางวัฒนธรรมพื้นบ้านนามทวีศิลป์ บางตะพง จะคงอยู่ในใจของเราทั้งหลายไปตราบนานเท่านาน

                                                         
 ขอคุณความดีืี่ท่านได้บำเพ็ญมาตลอดชีวิตจงเป็น                        ผลานิสงส์หนุนนำดวงจิตวิญญาณของท่าน จงไปสู่                      สุคติในสัมปรายภพเบื้องหน้าโน้น เทอญ

(ผู้ช่วยศาสตราจารย์ฉัตรชัย   ศุกระกาญจน์)
อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎนครศรีธรรมราช
ประธานศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช

--------------------------------

แด่หนังทวีศิลป์ ยอดศิลปินเพชรตัดเพช

ผมจัดรายการส่งเสริมศิลปินพื้นบ้านม่ตั้งแต่ปีพ.ศ.2513
สัมพันธ์อยู่กับหนังลุง มโนราห์ เพลงบอกฯลฯมาเป็นจำนวน
มากโดยฌแพาะสิลปินหนังตะลุง ผมคุ้นเคยเกือบทุกคณะ
สำหรับ "พี่วี" ผมรักและนับถือมาก ผมชื่นชมในน้ำใจและ
วัตรปฎิบัติของพี่วีเป็นพิเศษ แม้ว่า พี่วี จะเป็นคนพูดน้อย
แต่น่าเคารพนับถือเพราะท่านมีวัตรปฎิบัติและคุณธรรมอันน่าชื่นชมมาก คือ มีสัจจะและยึดมั่นในกตัญญูกตเวทีมิตาธรรม
ประพฤติดี ยึดธรรมมะเป็นหลักของชีวิต รักเพื่อนให้เกียรติเพื่อนสูงยิ่งในทุกสถานการณ์ ให้อภัยและไม่ผูกพยาบาทมีวิญญาณศิลปิน สร้าสรรค์ศิลปะกาพย์กลอนอยู่เสมอ
"พี่วี" เป็นศิลปินหนังตะลุงตั้งแต่ราคา 50 บาทถึง 100000บาท
เมื่อครั้งผมจัดรายการการแข่งขันประชัยศิลปินหนังตะลุงที่
สนามหน้าเมืองนครศรี ขื่อรายการว่า "ศึกเพชรตัดเพชร"
ยอดศิลปินเพชรตัดเพชรในครั้งนั้นคือ หังทวีศิลป์ บางตะพง
แม้วันี้พี่วีจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ แต่หนังทวีศิลป์ บางตะพง
ยอดศิลปิน เพชรตัดเพชร จะคงอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป ขอให้ดวงวิญญาณของ "พี่วี" ไปสู่สุขคติ

จากผม "ลุงเริญ"
จ ส อ. เจริญ คลิ้งทอง
ผู้จัดการส่งเสริมศิลปินชาวใต้ กองทัพภาคที่.4 
เมือง นครศรีธรรมราช

----------------------------------







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น